วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หนังสือพิมพ์ไทยสยามท้าให้ชิม


หนังสือพิมพ์ไทยสยาม

คอลัมน์ท้าให้ชิม


 วันนี้รายการ “ท้าให้ชิมกับไทยสยาม” ย้อนกลับมาใหม่จะพาคุณผู้อ่านนักเปิบ นักชิม นักโส๊ยทั้งหลาย
ลัดเลี้ยวเลาะไปตามเส้นทางพุทธมณฑล สาย 4 หน้าหมู่บ้านร่วมเกื้อ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อตามไปดูและพิสูจน์รสชาดอาหารรสเด็ด ที่ขึ้นชื่อลือลั่นว่า..อร่อยที่สุดในประเทศ “ร้ายเจ๊ไก่ต้มยำหัวปลาเก๋า” ถ้าเอ่ยชื่อนี้แล้ว  สำหรับบรรดานักชิมแล้วต้องยกนิ้วให้ ไกลแค่ไหนก็ดั้นด้นมาโส๊ยจนได้ เพราะต้มยำหัวปลาเก๋า ร้านเจ๊ไก่ที่นี่ มันแซ่บๆ อีหลี
สมคำร่ำลือ เป็นร้านอาหารริมทางแต่รสชาติระดับโรงแรม 5 ดาว ลูกค้าตรึมแน่นขนัดทุกวัน ไม่มีวันหยุด
การค้าขายคล่องตัวทุกอย่างการเงินเดินสะพัด ไม่ขัดไม่ฝืดเช่นร้านอื่นๆ
แม้แต่ระดับ “ขุนพลนักชิม” แห่งไทยสยาม คือ ท่านผอ.วิสูตร ศักดิ์เกษมศานต์ บรรณาธิการอำนวยการพร้อมทีมงานก็อดที่จะมาพิสูจน์น้ำย่อยต่อยกระเพาะ ที่ร้านเจ๊ไก่เช่นกัน
งานนี้  “ขุนพลนักชิม” ต้องยกนิ้วให้เพราะแค่ช้อนเดียวของน้ำต้มยำหัวปลาเก๋าร้อนๆ ในหม้อไฟของร้าน
เจ๊ไก่ พุทธมณฑลสาย 4 หยดแมะแตะแค่ปลายลิ้นเท่านั้น อื้อ ฮือ บอกได้เลยว่า อร่อยที่สู๊ด..ในประเทศไทยจริงๆ
ในสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มันผันผวน บรรดา
ผู้ประกอบการ sme น้อยใหญ่ทั้งหลายต่างก็ดิ้นรนแข่งขันปั่นเม็ดเหงื่อ เพื่อหาเงินหาทองกันตัวเป็นเกลียว บ้างก็ระดมโฆษณาลดแหลกแจกดะ เพื่อดึงดูดดึงใจลูกค้า หวังคว้า
กำไรงามๆจากธุรกิจต่างๆ ..แต่ที่นี่ ร้านเจ๊ไก่ พุทธมณฑลสาย 4 นครปฐม กลายเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกแหวกตลาด ผู้ประกอบการ sme รายอื่นๆ ต้องวิ่งหาลูกค้ากันสนั่นเมือง แต่ที่นี่ลูกค้ากลับแย่งกันเข้าคิว ยอมยืนรอ นั่งรอ นานแค่ไหนก็จะรอๆๆ เพราะมันอร่อยจริงๆ งานนี้คนที่ตื่นเต้นที่สุดจากการเข้ามาเยี่ยมร้านของ ทีมงาน นสพ.ไทยสยาม คงหนีไม่พ้น “ เฮียนึก” คุณอำนาจ น้อมบุญลือ พร้อมด้วยศรีภรรยาคู่บุญคู่ชีวิตคนเก่ง “เจ๊ไก่” คุณไกรศร วรรณศิริ
“เฮียนึก” ได้ให้สัมภาษณ์เปิดเผยเคล็ดลับถึงวิธีการดึงดูดใจลูกค้าโดยไม่หวงวิชากับรายการ
“ท้าให้ชิมกับไทยสยาม” ว่าจริงๆ แล้วธุรกิจผมทำมาเป็น 10 กว่าปีแล้ว เดิมเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว ถือว่าดวงผมเหมาะกับการทำธุรกิจอาหารเลยยึดเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัวมาจนถึงปัจจุบัน ตลอดระยะเวลาที่ผมทำธุรกิจอยู่นี้ ผมมีความเชื่อเรื่องบุญกุศล ซึ่งมันสำคัญมากกับการมีชีวิตของคนเรา เวลามีงานบุญที่ไหนผมและครอบครัว จะชอบไปร่วมบุญโดยตั้งโรงทานช่วยเหลือในงานบุญต่างๆ อยู่ตลอดไม่เคยขาด ผมคิดว่า “บุญ” เท่านั้นที่จะช่วยให้ชีวิตของคนเราเจริญรุ่งเรืองและมีความสุขสมหวังได้จนถึงทุกวันนี้ครับ
“เฮียนึก” ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยแววตาที่มีความสุขและความภูมิใจในชีวิตธุรกิจตนเองว่า...ผมเชื่อว่าบุญกุศลที่ผมและครอบครัวทำมาตลอด ได้ดลบันดาลให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ครั้งหนึ่งผม
ไม่คิดว่าจะโชคดีได้พบกับบุคคลสำคัญ คือ..“ท่านขุน
ทรงชัย”.. แห่งพุทธมณฑล ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่วัย 80 ปีเศษ  ท่านให้โชคให้ลาภผม ซึ่งมิใช่แก้วแหวนเงินทอง แต่เป็นมหาขุมทรัพย์ ทางปัญญาให้ผมทำมาหากินท่านได้บอกผมว่า .. “จำให้ดีถ้าไม่รักจะไม่บอก ร้านอาหาร
โต้รุ่งนั้น ควรให้ความสำคัญเรื่องแสงสว่างในร้านให้มากๆ  เพราะเป็นเรื่องฮวงจุ้ย ต้องติดตั้งหลอดไฟให้สว่างแจ้งโร่เข้าไว้ เพราะคนจีนเขาถือ คนจะเข้ากิน ส่วนอาหารต้องมีสีสัน สด สะอาด ปลอดภัย ราคาเป็นธรรมแก่ลูกค้า อาหารออกจากเตาต้องระอุมีกลิ่นไออบอวนถึงโต๊ะลูกค้าทันที
การบริการต้องประทับใจ และข้าวสวยต้องมาหลังกับข้าวอยู่เสมอ จำไว้นะ..” นี่คือเคล็ดลับทางปัญญาที่ท่านให้กับผม ผมกราบขอบพระคุณท่านมา ณ โอกาสนี้เช่นกันกับ ธุรกิจอาหารโต้รุ่ง  ที่ท่านขุนทรงชัยชี้ขุมทรัพย์ให้ผมและได้นำมาปฏิบัติจนธุรกิจประสบความสำเร็จจนทุกวันนี้
“เฮียนึก” เล่าต่อว่า ทุกวันนี้ธุรกิจผมรับงานไม่หวาดไม่ไหว ทั้งงานนอกงานใน ไหลมาเทมา จนบางครั้งต้องบอกปฏิเสธลูกค้าไปเพราะงานเข้าเยอะจริงๆ ลูกน้องว่าจ้างขณะนี้มี 15 คน แทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน ลูกน้องก็ขยันขันแข็งดี ซื่อสัตย์ เอางานเอาการทุกคน มีลูกค้า
คณะหนึ่งอยู่แถวดอนเมือง เขาได้รู้จักผมทาง นสพ.
สยามรัฐขณะที่เขานั่งอ่านอยู่บนเครื่องบิน พอเขาลงมา
จากเครื่อง รีบโทรมาที่ร้านทันที สอบถามเส้นทางและก็ได้มาทานอาหารที่ร้านผม เขามาเป็นคณะประมาณ 7-8 คน
จนเป็นลูกค้าขาประจำจนถึงทุกวันนี้  ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากไกลๆ เช่นปริมณฑล รึบ้างต่างจังหวัดก็มี ต้มยำหัว
ปลาเก๋าที่นี่ถูกมาก คิดเป็นชามถ้าทานที่ร้าน ชามละ 80 บาท ถ้าใส่ถุงกลับบ้าน 100 บาท ถ้าตั้งหม้อไฟแค่ 150 บาท เท่านั้น และอาหารขึ้นโต๊ะอื่นๆราคาประหยัดมาก ต่างจากร้านอื่นๆแพงกว่าตั้งเยอะ เศรษฐกิจอย่างนี้ ต้องเห็นใจสงสารไม่ควรฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภค ลูกค้าที่ได้มาอุดหนุนร้านผมก็ต้องขอขอบพระคุณทุกท่าน ผ่านรายการ ท้าให้ชิม
กับไทยสยาม มา ณ โอกาสนี้
ด้วยนะครับ ผมถือว่าการทำธุรกิจอะไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรมีคุณธรรมต่อผู้บริโภคด้วย ถือว่าเราได้ช่วยเหลือสังคมไทยในยามที่ประเทศชาติเราประสบปัญหาวุ่นวายมากมาย แค่นี้ผมและครอบครัวก็ภูมิใจแล้วครับ
  หลังจากที่ท่าน ผอ.วิสูตร และทีมงานใช้เวลาโส๊ยแซ่บๆ
กับอาหารอร่อยทุกจานประมาณ 3 ชั่วโมงในการพบปะสังสรรค์ อย่างเกษมสำราญแล้ว “ป๋าใหญ่แห่ง
ไทยสยาม”ก็ลุกขึ้นรีบยื่น นสพ.ไทยสยามให้ 1 ฉบับ
ให้แก่ “เฮียนึก” พร้อมร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกัน
ทั้งเจ้าของร้าน “เฮียนึกและเจ๊ไก่” กุ๊ก เด็กเสริฟทั้งร้านดีใจกันยกใหญ่กับการมาเยี่ยมของรายการ “ท้าให้ชิมกับ
ไทยสยาม” ในครั้งนี้ นำทัพโดย ผอ.วิสูตร  ศักดิ์เกษมศานต์ เจ้าของฉายา “ขุนพลนักชิม” เพราะตระเวนชิมอาหาร
แซ่บๆ มาแล้วทั่วประเทศและต่างประเทศอีกบ่อยครั้ง ก็ยังออกปากชม จึงมีประสบการณ์กล้าการันตีว่า ต้มยำหัวปลาเก๋าที่นี่รสชาติเด็ดจริงๆ ครบเครื่อง และที่สำคัญงานนี้ อดขอบคุณในน้ำใจอันงามๆ ของ ท่าน อ.กิตติชัย เปียวัฒน์ และภรรยาคนสวยไม่ได้ เพราะเป็นผู้แนะนำร้าน ท้าให้เรามาชิม มาพิสูจน์และสัมผัสในบรรยากาศที่โล่งๆ แบบธรรมชาติ..สดชื่น..ยังไงท่านนักชิมทั้งหลายลองพิสูจน์ได้ทุกวันนะคะ ที่ร้านเจ๊ไก่ต้มยำหัวปลาเก๋า หน้าหมู่บ้าน
ร่วมเกื้อ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา บ่าย 3 โมง-ตี 1 ทุกวันไม่มีวันหยุด หรือสอบถามเส้นทางสั่งจองอาหารทั้งในและนอกสถานที่
ได้ที่หมายเลขโทร. 089-6702976 งานนี้ รายการ “ท้าให้ชิมกับไทยสยาม” รับรองไม่ผิดหวังค่ะ..

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น