วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โลกกีฬาตกปลาไทย

 หนังสือพิมพ์ไทยสยาม

คอลัมน์โลกกีฬาตกปลาไทย 
ลุง ส.ขอเขียนเรื่องราวเกมส์ตกปลาทะเล ก่อนเข้าไป
ท่องเที่ยวในโรงพยาบาลรามาธิบดีเพียง 2 วัน หลังจาก
เรื่องตกปลาทะเลก็จะเขียนเรื่องราวเข้าไปท่องเที่ยวใน
โรงพยาบาลรามาธิบดี แล้วได้ประสบการณ์อะไรใหม่ๆ จาก
วิธีการรักษาโรคหัวใจของเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยทางเทคโนโลยี่ ของสถาบันการแพทย์ไทยยุคสมัยปัจจุบัน มีความก้าวหน้าล้ำยุคในการรักษาผู้ป่วยที่ไม่ต้องไปนอนรักษาใน
โรงพยาบาล ใช้เวลานานๆเปลืองเตียงเปลืองหมอและพยาบาลคอยดูแลรวมถึงญาติๆ ผู้ป่วยอีกด้วย
ครับ หลังเข้าทำหัดการทางหัวใจ ตามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางโรคหัวใจ โรงพยาบาลรามาธิบดีนัดเข้ารักษา ลุง ส.วันที่ 11 พ.ค.55 แต่ต้องไปเจาะเลือดตรวจก่อนล่วงหน้า 9 วัน ถึง 4 หลอด หลังเจาะเลือดวันที่ 2 พ.ค.55 พอวันที่ 6-7 พ.ค.55 ลุง ส.ก็ยังออกทริปตกปลาทะเลชายฝั่งช่องแสมสารสัตหีบกับเพื่อนนักนิยมเกมส์ตกปลาทะเลด้วยกัน ซึ่งเพื่อนคนนี้เป็นเจ้าของ บริษัท สยาม ทรานส์ เน็ทเวอร์ด จำกัด ได้ห่างเหินตกปลาทะเลไป 3 ปี เพราะกิจการธุรกิจรัดตัว พอมีจังหวะเวลาว่างก็เลยโทรให้ลุง ส.
จองเรือไต๋แขก
แสมสารไว้ ตอน 12.00 น.
ของวันที่ 6 พ.ค.55 ก็ขับรถมารับ ลุง ส.
ที่บ้าน โดยมีคุณสายัณ กับเพื่อนที่เพิ่งจะลงทะเลตกปลาครั้งแรก คุณสงกรานต์ รวม ลุง ส.เป็นสามคน
หลังลงเรือเรียบร้อยตอน 17.00 น.ไต๋แขกก็ออกเรือไปทิ้งสมอรอเวลาตกปลาหมึก และเปิดไฟล่อหมึกเพื่อทำการครอบเอาหมึกขึ้นมาทำเหยื่อตกปลาช่วงเช้ามืด ก็เลยนั่งตกหมึกไปพรางๆ ก่อนครอบ ไต๋แขกบอกว่า จะพาเข้าหมายตกปลาเก๋าใหญ่ เพราะเข้าฤดูมรสุม ปลาเก๋าใหญ่จะขึ้นมาวางใข่ช่วงน้ำตื้น สิบยี่สิบเมตรตามขึ้นซากเรือจมหรือกองหิน
เมื่อใกล้เวลาเช้ามืด หลังครอบหมึกทำเหยื่อเรียบร้อย ไต๋แขกก็ถอนสมอ วิ่งเรือเข้าหมายกองหินระดับน้ำลึกแค่ยี่สิบกว่าเมตร ไต๋แขกก็วิ่งจนดูในจอซาวซ์เดอร์ว่ามีปลามาอาศัยอยู่เยอะหรือไม่ จากนั้นก็ทิ้งสมอจอด เพื่อหย่อนเป็ดเกี่ยวเหยื่อด้วยหมึกเป็น ลุง ส.ประกอบคันเป็ดตกปลาทะเลเป็นคัน “เพาเวอร์จิ๊ก” 5 ฟุตของยี่ห้อ “รูปิด” กับ รอกเบทฯ ของติ๊กก้าทีม 468R. สาย P.E.80 ปอนด์ ของ “มารูเกียว” เป็นชุดตกปลาทะเลที่เหมาะที่สุดของ
ลุง ส. มอบให้คุณสายัณ เป็นคนตกทางกราบขวาของเรือ ส่วน ลุง ส.อยู่กราบซ้ายอีกชุดของอุปกรณ์ตก ลุง ส.เปิดเกมส์ก่อนเป็นปลาเก๋าขนาดเล็กแค่สองกิโล ด้านกราบขวาคุณสายัณ อัด
สร้อยนกเขาขึ้นมาตัวกิโลกว่าๆ ด้านหัวเรือไต๋แขกอัดเอา
หางแซวขึ้นมาอีกตัว พอเกี่ยวเหยื่อหมึกเป็นตัวใหญ่หน่อย ไม้ที่สองของคุณสายัณ ปลาเก๋าใหญ่ก็ฉวยเหยื่อคันคุณสายัณ
ที่ถืออยู่จนโค้งปลายคันจมน้ำ คุณสายัณแกบอกว่าปลาใหญ่มาก อัดสู้กับมันไม่เลยส่งคัน คุณสงกรานต์ช่วยอัดนั่งอัดก็อัดไม่ขึ้น ปลารากสายออกไปเรื่อยๆ ทั้งที่ปิดเบรกสุดแล้ว ส่งกลับมาให้คุณสายัณอัดต่อระหว่างที่ส่งคันกันนั้นเอง ปลาก็เลยหลุดไปเลยไม่ได้เห็นตัวว่าปลาอะไร ตัวขนาดไหน ขนาดตัวเบ็ด
“การ์บา” เบอร์ 15 สองตัวยังง้าง ลุง ส.ก็เลยผูกเบ็ดคันใหม่สองตัวคู่ ใช้สายเอ็น 90 ปอนด์เกี่ยวเหยื่อลงไปใหม่ คุณสายัณ แกถือโศกขึ้นลงๆก็ถูกปลาใหญ่ฉวยเหยื่อร้องร้องลั่น แกดันเบ็ดสุดสาย PE ในรอกยังวิ่งออก ลุง ส.เห็นพอดีเลยตะโกนบอกแกอย่ายอมให้มันรากออกอีก ตั้งหลักแล้วอัดมันขึ้นมา คุณสายัณ ทำตาม ลุง ส.บอกอย่าเปลี่ยนมือ ให้คุณสงกรานต์ช่วยอีกประเดี่ยวหลุดอีก ยังไม่ทันขาดคำ ปลามันกระชากั้นโค้ง ก็เกิดมีอันเป็นไป “คันหักกลางคัน” ปลาก็ยังรากสายออกไปอีก ลุง ส.บอกให้คุณสงกรานต์ รีบจับสายที่ปลาดึงอยู่ ปรากฏว่าสาวสายไม่ขึ้น แต่พอดึงไปดึงมา สายก็ตามมือขึ้นมา แต่สายหรีดกับตาเม็ดขาดไปกับปลา เลยไม่ได้เห็นว่าเป็นปลาอะไร แต่ไต๋แขกบอกว่าเป็นปลาเก๋าลูกหมูหรือไม่ก็ปลาหมอทะเล เลยพอบ่ายก็ตีเรือเข้าฝั่งกลับกันดีกว่า เลยได้แต่ปลาเล็กปลาน้อยกับปลาหมึกที่เหลือจากทำเหยื่อตก ตีรถกลับบ้าน คุณสายัณบ่นอุบว่า เสียดายและเป็นครั้งแรกที่ได้สู้กับปลาขนาดใหญ่ จนไม่มีแรงสู้กับมัน อุตส่าห์ตั้งต้นไม่ให้มันราก แต่ถูกมันกระชากอย่างแรง จึงทำให้คันมีอันเป็นไป หักกลางคัน ลุง ส.เลยบอกว่าลุงเห็นจะๆ กับตาตัวเอง ทั้งยังบอกว่าไม่ต้องกลัวคันหัก กลับมาถึงบ้านนอนคิดไปว่า เข้าโรงพยาบาลรามาฯ รอบนี้ ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาตกปลาอีกหรือเปล่าเนอะ...เพราะตกปลาทะเลมาไม่เคยปลาใหญ่ๆ ดึงคันหักกับมือเลยสักคัน แต่เคยเห็นคันของคนอื่นที่กำลังอัดแล้วหักปลายๆ คัน
qqqqq
หลังกลับมาพักได้หนึ่งวันเป็นอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.55 พอตกเย็นไก่ คลองถม บอกพรุ่งนี้เที่ยงๆ จะมารับไปตกปลาทะเลที่พัทยา ที่ลุง ส.เคยชวนไว้ ว่ามีเรือตกปลาชายฝั่งที่คุณเปียนักนิยมตกปลาทะเล ที่เป็นสมาชิกของ ลุง ส.ได้โทรไปชวน บอกว่ามีเรือที่ต่อเอาไว้ตกปลาชายฝั่งโดยเฉพาะ ใช้เครื่องเรือเร็ว YAMAHA 40 แรง มีอุปกรณ์พร้อม มีห้องขังเหยื่อเป็น มีที่ปักคันเบ็ด มีไฟล่อหมึก มีสมอหัวเรือและมี “ซาวว์เดอร์” ดูแหล่งปลาและซึ้งใต้น้ำ ซากเรือจมและกองหินใต้น้ำ ไปได้ 4 คน ถ้าจะหลับนอนก็เบียดกันหน่อย นั่นเป็นเรื่องเล็กสิวสำหรับนักนิยมเกมส์ตกปลาฯ เรื่องกินนอนไม่สำคัญ เพียงขอให้ได้ตกหมึกตกปลาเท่านั้น
วันที่เดินทางไปลงเรือ ที่ท่าหาดจอมเทียนเพราะคุณเปียแกเอาเรือรากไปเก็บไว้ที่บ้านแก
เมื่อเอาเรือลงที่ท่าเรือเร็วหาดจอมเทียน คุณเปียแกก็ขับมุ่งไปหาแหล่งจอดตกหมึกทั้งหมึกกล้วยหมึกศอก แต่โชคไม่เข้าข้าง ลุง ส.กับไก่ คลองถม เสียแล้ว เกิดมีเมฆฝนดำทะมึนทั้งลมเอาคลื่นมาใหญ่ขึ้นๆเลยต้องหลบไปริมเกาะล้าน ฝนก็เทลงมาอีก แต่ดีที่มีหลังคาและกันสาดเข้าไปหลบอยู่กลางลำ ก็พอตกหมึกได้ห่างๆ ตัว พอฝนหาย ก็เลยย้ายไปเกาะครกหาตกหมึก ศอกที่นี่อยู่ระดับน้ำแค่ 2 เมตร ชายๆ เกาะ พอตกเวลาตีหนึ่ง ฝนกับคลื่นมาอีก เลยหลบไปจอดนอนริมเกาะครก จนถึงเช้า คลื่นก็ยังสูงสองเมตร จะตกปลาก็ไม่ได้เสียแล้ว เลยบอกคุณเปียกลับขึ้นฝั่งดีกว่า ตกไม่ได้แน่วันนี้
ก็เลยกลับ ก็เลยบอกเอาไว้หมดฤดูมรสุมค่อยมาใหม่ แต่ไม่แน่ว่า ลุง ส. จะมาได้หรือเปล่า เพราะไม่แน่ใจเข้าโรงพยาบาลรามาฯ มะรืนนี้ยังไม่รู้ว่ายมพบาลจะมารับไปตกปลาเมืองผีหรือเปล่า ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าจะได้มาท่องเที่ยวตกปลาทะเลหรือไม่...กลับถึงบ้านวันที่ 9พ.ค.55 พักผ่อนวันที่ 10 หนึ่งวัน
เช้ามืดวันพุธที่11 พ.ค.55 รีบออกจากบ้านไปถึงโรงพยาบาลรามาธิบดีตามหมอนัด 8.00 น.ในการเข้าห้องพักการรักษาหัวใจ พอไปถึงยื่นบัตรนัดเสร็จก็ไปยังชั้น 2 ตึกสิริกิตติ์ แผนกรักษาโรคหัวใจ เจ้าหน้าที่ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเข้าห้องปฏิบัติการทางหัวใจ แต่ก่อนจะเข้าทำการรักษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางเครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะเอาคนไข้ไปนั่งชี้แจงพร้อมญาติสายตรง ถึงขั้นตอนพร้อมทั้งให้ญาติที่ไปด้วยเข้าร่วมรักษากับหมอด้วยการเข้าไปดูการรักษา เมื่อแพทย์ชี้แจงขั้นตอนเสร็จ จะถอนตัวไม่รักษาก็ได้เพราะค่าใช้จ่ายสูงพอสมควรเป็นแสนๆ บาท ถ้าตกลงรักษาก็ให้คนไข้กับญาติเซ็นยินยอม
จากนั้นก็นำลุง ส.เข้าห้องปฏิบัติการรักษา แล้วขึ้นไปนอนเตียงเฉพาะตัว รัดสายที่หน้าอกปลายขา  แล้วทำความสะอาดบริเวณที่ท้องน้อยลงไปถึงหัวเข่า โกนขนรอบบริเวณเส้นเลือดใหญ่โคนขาหนีบ แต่ไม่มีการวางยาสลบ ใช้ฉีดยาชาเริ่มจากแพทย์ฉีดสีเข้าไปในเส้นเลือดโคนขาหนีบข้างขวา ประมาณ 30 นาที เพื่อตรวจว่าเส้นเลือดหัวใจตีบตันกี่เส้น หลังจากนั้น แพทย์ก็จะใช้ขดลวดแยงเข้าไปตามเส้นเลือด เพื่อขยายด้วยวิธีบอลลูนลูกโป่งเข้าไปถ่างให้กว้าง สำหรับตัว ลุง ส.นั้นเส้นเลือดตีบไป 1 เส้นมาเป็นเวลาสิบๆ ปี แพทย์บอกไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพราะกล้ามเนื้อหัวใจรัดเส้นไปแล้ว แต่เหลืออยู่สามเส้นยังใช้ได้ปกติและได้ทำการขยายเรียบร้อยแล้วแต่ต้องใช้ยารักษาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเท้งทึ้งว่างั้นเถอะ...เบ็ดเสร็จใช้เวลารักษาปฏิบัติการเพียงชั่วโมงครึ่ง ก็เสร็จเรียบร้อย แต่แพทย์จะต้องให้ไปนอนห้องสังเกตการณ์ ด้วยการนอนราบ เหยียดขาข้างขวา ห้ามงอขาหรือขยับขา 6 ชั่วโมง โดยมีพยาบาลผลัดเปลี่ยนเฝ้าดูอาการ ถ้าเกิดมีอะไรแทรกซ้อนผิดปกติ พยาบาลจะรีบตามแพทย์ มาดูอาการทันที แล้วคนไข้รายนั้นจะต้องนอนดูอาการอีก 24 ชั่วโมง ถ้าคนไข้ไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อน หลังนอนเหยียดขาผ่านไป 6 ชั่วโมง แพทย์ก็ให้กลับบ้านได้ แล้วให้ไปนอนพักผ่อนที่บ้านได้ แต่ให้ลุกเดินภายในบ้านได้ตามปกติ แต่ห้ามเดินไกลและขึ้นบันได ห้ามยกของหนักเกิน 5 กิโล เมื่อเลย 10 วันก็ทำงานได้ปกติธรรมดาและออกกำลังกายได้ตามปกติ จะมีอาการชาตามกล้ามเนื้อบางวันบ้าง แพทย์บอกไม่เป็นไร จะค่อยๆ หายไปเอง ถ้าจะถามว่าระหว่างที่หมอปฏิบัติการรักษาอยู่นั้น มีความเจ็บปวดร่างกายหรือเปล่า ลุง ส.บอกได้เลยว่า ไม่มีการเจ็บปวดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว นอนทำตาปริบๆ มีความนึกคิดไปเองเพราะกลัวจะเจ็บ พอหมอปฏิบัติการเสร็จบอกว่าเสร็จแล้ว จากนั้นก็มีพยาบาลมาช่วยกันพลิกตัวลงไปนอนบนรถเข็นนอนออกจากห้องพัก ไปยังห้องนอนสังเกตการณ์ 6 ชั่วโมง
ลุง ส.มีเรื่องเล่าความจริงให้ท่านผู้อ่านได้ความรู้ ไม่ใช่เป็นเรื่อง “โจ๊ก” นะ ระหว่างที่ลุง ส.นอนเหยียดขาขวาตรงในห้องสังเกตการณ์อยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็เกิดปวดปัสสาวะ บอกพยาบาลที่นั่งเฝ้าอยู่ พยาบาลก็เอากระบอกปัสสาวะชายมาให้ถ่าย แต่มันเกิดอาการไม่มีกำลังขับปัสสาวะออกมาและปวดท้องน้อยมาก ก็รีบบอกพยาบาลๆ ก็รีบไปตามหมอมาตรวจ หมอมากดตรงท้องน้อยก็ยิ่งปวดมากขึ้น หมอจึงสั่งให้พยาบาล 2 คนเอาเครื่องมือกับสายยางยาวเกือบเมตรมาทำการสวนเอาปัสสาวะออกนางพยาบาลทั้งสองคนรูดม่านรอบเตียงแล้วถอดกางเกงออก อีกคนทำหน้าที่ปลุก “นกเขา” ของลุง ส.เพื่อจะให้เกิดการตื่นตัว เลยพยาบาลอีกคนต้องมาช่วยดึง “คอนกเขา” ของลุง ส.
ที่อ่อนปวกเปียก แล้วพยาบาลก็ยัดสาย
ยางเข้าไปในท่อปัสสาวะ อีตอนนี้ซิว่ามันทั้งเจ็บและเสียวแปรบๆ ถึงขั้วหัวใจ ก็เพราะท่อปัสสาวะมันหดตามตัวของ “นกเขา” นั่นเอง กว่าปลายสายยางจะถูกยัดเข้าไปถึงในกระเพาะปัสสาวะ เล่นเอาในแทบหยุดเต้น ผู้อ่านที่เป็นชายก็คิดกันเอาเองก็แล้วกันว่า มันทั้งเสียวทั้งเจ็บแสบเพียงใด หลังปลายสายยางเข้าไปถึงกระเพาะปัสสาวะ พยาบาลก็ใช้ลูกยางบีบแล้วดูดเอาปัสสาวะออกจนหมด ทำให้โล่งท้องนอนสบาย มาเสียวสุดๆ อีกทีตอนดึงสายยางออกที่พยาบาลพยายามปลุก “นกเขา” ให้สู้มือ ก็เพราะเวลาสวนสายยางเข้าไปทำให้คล่องตัวและ
ไม่เจ็บหรือแสบมากนั่นเอง (ถ้านกเขาแข็งตัว) อายุ 78 ปีแล้วนะ ห่างเหินทางเพศมา 20 ปีแล้ว นกเขามันจะไปสู้มือพยาบาลได้อย่างไร
จากนั้นลุง ส.นอนครบ 6 ชั่วโมง หมอก็ให้กลับบ้านได้ เรื่องปัสสาวะก็ขับถ่ายได้ตามปกติธรรมดา เพียงแค่เวลาถ่ายแล้วแสบท่ออยู่แค่ 2 วันก็หายเป็นปกติ การท่องเที่ยวโรงพยาบาลของ
ลุง ส.ครั้งนี้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทันสมัยอีกมากมายในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บของมนุษย์ ตั้งแต่ปี 2535 จวบจนถึงปี 2555 ลุง ส.ทัวร์โรงพยาบาลถึง 7 โรงพยาบาล ได้ประสบการณ์และความรู้มากมาย เป็นชีวิตของคนมีเวรมีกรรมคนหนึ่ง แต่ก็ยัง
ไม่เลิกตกปลาฯ ทั้งปลาทะเลและปลาน้ำจืดและปลาสองน้ำ
qqqqq
หลังทำการขยายหลอดเลือดและบอลลูนหัวใจผ่านมาได้เดือนกว่าๆ เพื่อนที่เคยร่วมทริปตกปลาทะเลมาด้วยกัน ไก่เจ้าของกิจการร้านเย็บเบาะฯ สุทธิสาร วิภาวดี ก็โทรมาหาบอกว่าฤดูนี้ออกทะเลไม่ได้ ออกไปหาแหล่งตกปลา 2 น้ำบางปะกงกันดีกว่า เพราะไม่ได้ออกตกปลามา 2 เดือนแล้ว ตอนเช้าวันอาทิตย์ที่ 8 ก.ค.55 จะมารับไปตกปลากะพงขาวที่แถวๆ ฉะเชิงเทรา บางปะกง แต่เป็นปลาบ่อเลี้ยงบริการที่เปิดใหม่ใหญ่โต พื้นที่บ่อกว้างขวางมีปลากะพง ปลากดอะเมซอน ให้ตกด้วยเหยื่อปลอม เพราะปลาแม่น้ำบางปะกง ช่วงนี้น้ำเสียไม่ค่อยมีปลา ก็เลยหันไปพักผ่อนตกปลาบ่อ ชื่อบ่อตกปลาและสวนอาหาร ฟรีสไตล์ ฟิชชิ่งปาร์คและสวนอาหาร ขับรถแยกจากมอเตอร์เวย์ ที่ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง วิ่งไปเส้นทางถนนฉะเชิงเทราประมาณ 5 กิโล  ปากทางเข้าวัดปราสาทสุนทรซ้ายมือ ถ้ามาจากแปดริ้ว 10 กิโล ทางเข้าอยู่ขวามือ วิ่งรถเข้าถึงบ่อ ฟรีสไตล์ ฟิชชิ่งและสวนอาหาร 2 กิโลจากปากทาง มีป้ายบอกทางตลอด
ปลาที่ปล่อยเลี้ยงไว้ เพื่อเกมส์การตกปลาด้วยวิธีใช้เหยื่อ RAPALA  เป็นเหยื่อปลอม มีปลาล่าเหยื่อเป็น คือปลากะพงขาวกับปลากดจากอะเมซอน เป็นปลาที่ชาร์ทเหยื่อปลอมดีสำหรับนักนิยมตีเบ็ดด้วยเหยื่อปลอม จะเป็นคันรอกเบทฯ รอกสปิน และคันรอกฟรายได้ทั้งนั้น สำหรับค่าบริการวันละ 150 บาทต่อคนต่อ 1 คัน เบ็ด แต่เปลี่ยนคันตกได้ทั้ง 3 แบบ ทางบ่อเขามีอาหารเครื่องดื่มไว้บริการทุกชนิด ปลาที่ตกขึ้นมาจะทำอาหารรับประทานก็นไปชั่งน้ำหนักตามราคาที่ทางบ่อกำหนดไว้เป็นกิโล ส่วนสถานที่กว้างขวาง สะดวกสบาย บรรยากาศอยู่กลางทุ่งนาข้าว ดูตามภาพที่ลุง ส.ถ่ายมาประกอบเรื่องก็แล้วกัน ลุง ส.ก็เพิ่งไปมาเป็นครั้งแรก เพราะออกตกปลาทะเลฤดูนี้ไม่ได้ ก็เลยไปแก้เหงาเอามือกับพรรคพวกและนั่งกินอาหารที่เลิศรสจากปลากระพงสดๆ เพราะหมอบอกเอาไว้ให้กินเนื้อปลามากๆ





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น